วันพุธที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

ManChesTer UniTed Fan Club




ManChesTer UniTed PlaYer ProFile

วันเกิด 29 ตุลาคม 1970
เมืองเกิด ฟอร์โฮท์, ฮอลแลนด์
เคยเล่นฟุตบอลให้กับ อาแจ็กซ์, ยูเวนตุส ฟูแล่ม
ทีมชาติ ฮอลแลนด์เซ็นสัญญาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 กรกฎาคม 2548

เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ เป็นนักฟุตบอลคนหนึ่งที่มีประสบการณ์สูง มีเหรียญรางวัลมากมายที่การันตีความมีประสบการณ์ของเขา รวมไปถึงการเป็นผู้รักษาประตูให้กับทีมชาติฮอลแลนด์ อีกเกือบ 100 นัด ความสามารถของเขามีมากมายโดยไม่ต้องสงสัย เขามีความคล่องแคล่วว่องไว รวมทั้งเป็นผู้รักษาประตูที่เซฟลูกกลางอากาศได้ดีมากคนหนึ่งด้วย เอ็ดวิน เป็นนักฟุตบอลชาวดัทช์ คนที่หกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อจากอาร์โนลด์ มูร์เรน, ไรม่อน ฟาน เดอร์ ฮาว, จอร์ดี้ ครัฟฟ์, ยาป สตัม และ รุด ฟาน นิสเตลรอยเขาเติบโตมาในทีมเยาวชนของ อาแจ็กซ์ และเขาก็คว้าแชมป์ยุโรปเป็นครั้งแรกของตัวเองกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เมื่อทีมของเขาสามารถเอาชนะโตริโน่ ได้ในศึกยูฟ่า คัพ ปี 1991/92 แชมป์ยุโรปครั้งที่สองของเขาเกิดขึ้น 3 ปี หลังจากนั้น เมื่อเขามีส่วนช่วยให้ทีมเอาชนะเอซี มิลาน ในปี 1994/95
ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่ในปีต่อๆ มาเขาก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ได้เมื่อทีมของเขาพ่ายจุดโทษต่อ ยูเวนตุส ในปี 1996 อาชีพค้าแข้งของเขากับ อาแจ็กซ์ ยังทำให้เขาได้คว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน ซูเปอร์ คัพ รวมทั้งแชมป์ลีกฮอลแลนด์อีก 4 ครั้ง ก่อนที่เขาจะย้ายไปเล่นให้กับทีมยักษ์ใหญ่จากอิตาลีอย่าง ยูเวนตุส ในปี 1999

ซึ่งในปีนั้นเองที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้ให้ความสนใจที่จะคว้าตัวเขามาแทนที่ ปีเตอร์ ชไมเคิล แต่ไม่ประสบความสำเร็จหลังจากสองฤดูกาลในตูรินกับยูเวนตุส เขาก็ต้องมองหาทีมใหม่เมื่อ ยูเว่ ได้เซ็นสัญญาซื้อตัว จิอันลุยจิ บุฟฟ่อน เข้ามา และในตอนนั้นเอง ฌอง ติกาน่า ของฟูแล่ม ก็ไม่รอช้าที่จะคว้าตัวเขาเข้าไปร่วมทีม ด้วยค่าตัว 5 ล้านปอนด์ และ ฟาน เดอร์ ซาร์ ก็ลงเล่นนัดแรกให้กับฟูแล่ม ในนัดที่พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในโอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2001ความสามารถของเขาพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นได้ชัดยิ่งขึ้นกับผลงานในทีมชาติ เมื่อเขามีความโดดเด่นในการเล่นให้กับทีมชาติฮอลแลนด์ ช่วยให้ทีมเขาถึงรอบ semi-final ของฟุตบอลโลกในปี 1998 รวมถึงศึกยูโร 2000 และ 2004 ด้วย
__________________________________________________________________

เกิด 7/11/1978
เมืองเกิด เป็คแฮม, ลอนดอน
ตำแหน่ง กองหลัง
หมายเลขเสื้อ 5

ริโอ เฟอร์ดินานด์ เป็นลูกชายคนโตของ จูเลียน และ เจนิส ช่วงชีวิตวัยรุ่นของเขา เขาได้ลงเล่นให้กับทีมท้องถิ่นที่ชื่อ บลูมฟิลด์ส (Bloomfields ) ในตำแหน่งศูนย์หน้าตัวกลาง และหากดูจากเว็บไซต์ส่วนตัวของเขาเองบอกไว้ว่า เขาทำประตูได้ถึง 30 ประตูเลยทีเดียว หลังจากนั้นเขาก็ย้ายทีมไปเล่นให้กับ เอลธัม ทาวน์ (Eltham Town) ในทีมรุ่นอายุไม่เกิน 13 และ 14 ปี โดยที่นี่เขาลงเล่นในตำแหน่ง มิดฟิลด์ตัวกลาง และทำให้แมวมองจากทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ให้ความสนใจในตัวเขาริโอ เซ็นสัญญาร่วมทีมกับ เวสต์แฮม ในฐานะนักเตะฝึกหัดด้วยวัยเพียง 14 ปี และเมื่ออายุได้ 16 ปี เขาปฏิเสธการยื่นข้อเสนอจาก มิดเดิ้ลสโบรซ์, นอริช ซิตี้, มิลล์วอลล์, ชาร์ลตัน และ เชลซี โดยตัดสินใจอยู่ค้าแข้งกับทีมขุนค้อนต่อไป ด้วยสัญญา 2 ปี ในการเป็นนักเตะทีมชุดเยาวชน ด้วยค่าเหนื่อยสัปดาห์ละ 30 ปอนด์

ในขณะนั้นหน้าที่ของเขาคือทำความสะอาดรองเท้าของตำนานของทีมอย่าง โทนี่ คอตตี้ และ ผู้จัดการทีม แฮร์รี่ เรดแนปป์ ส่วนในสนามเขาก็สามารถช่วยทีมเยาวชนคว้าแชมป์ South East Counties League ในปี 1995/96 ความสามารถของเขาทำให้ เรดแนปป์ สนใจที่จะเซ็นสัญญากับเขาในฐานะนักฟุตบอลในทีมชุดใหญ่ ซึ่งในขณะนั้น ริโอ มีอายุเพียง 17 ปี เท่านั้นการลงเล่นนัดแรกของเขาให้กับทีมชุดใหญ่ในวันที่ 5 พฤษภาคม 1996 เขาลงเล่นเป็นตัวสำรองในเกมที่พบกับ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ที่ อัพตัน พาร์ค ฤดูกาลหลังจากนั้น เรดแนปป์ ได้ส่ง ริโอ ไปเล่นกับ บอร์นมัธ ด้วยสัญญายืมตัวเขาลงเล่นให้กับทีมในดิวิชั่น 2 จำนวน 10 นัด ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 1996 ถึง 11 มกราคม 1997 แล้วจึงกลับมาเล่นให้กับ เวสต์แฮม ตามเดิม เขาเริ่มเล่นให้กับทีมอย่างจริงจังเมื่อวันที่ 25 มกราคม 1997 ซึ่งเป็นความทรงจำที่ไม่ค่อยดีนัก เมื่อทีมของเขาพ่ายในศึก เอฟเอ คัพ 0-1

ฤดูกาลแรกของเขาที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด เขาต้องพบกับอาการบาดเจ็บ และมีฟอร์มที่ไม่ดีนักในสนาม แต่ก็ยังสามารถช่วยทีมคว้าถ้วยแชมป์ลีก กลับคืนมาจาก อาร์เซนอล ได้สำเร็จเป็นเป็นแชมป์ลีกครั้งที่ 15 ของสโมสร ริโอ เฟอร์ดินานด์ กล่าวว่า เขาย้ายมาที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพื่อต้องการถ้วยแชมป์ และฝันของเขาก็เป็นจริงหลังจากย้ายมาเพียง 10 เดือนเท่านั้น
_____________________________________________________________________




เกิด 5/2/1985

เมืองเกิด มาเดร่า
หมายเลขเสื้อ 7
ตำแหน่ง กองกลาง
สโมสรต้นสังกัดก่อนหน้านี้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน
เล่นให้กับทีมชาติโปรตุเกส รุ่นอายุไม่เกิน 15ปี , 16 ปี , 17 ปี และทีมชาติชุดใหญ่



คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดอส ซานโตส อเวโร่ เกิดที่ ฟันชัล ใน เมไดร่า อีสแลนด์ส เขาเริ่มเล่นฟุตบอลกับทีม เนชั่นแนล (Nacional) ก่อนที่จะย้ายไปเล่นให้กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอนในวันที่ 15 สิงหาคม 2001 เขาลงสนามนัดแรกให้กับทีม สปอร์ติ้ง ลิสบอน ด้วยวัยเพียง 16 ปี ซึ่งสปอร์ติ้ง นั้นถือเป็นทีมที่อยู่ในระดับดีทีเดียว เมื่อผลิตนักเตะที่ยอดเยี่ยมหลายๆ คนป้อนสู่ตลาดยุโรปอย่าง หลุยส์ ฟิโก้, เจา ปินโต ซึ่ง โรนัลโด้ เองก็กำลังจะเจริญรอยตามรุ่นพี่ ด้วยความสามารถที่เจิดจรัสในฟุตบอลยุโรป เมื่อตกเป็นที่สนใจของทีมยักษ์ใหญ่หลายๆ ทีม


โรนัลโด้ ลงเล่นให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นัดแรก ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด โดยพบกับ โบลตัน และทีมสามารถเอาชนะมาได้ 4 - 0 โดยในครั้งนั้นเขาลงเล่นแทน นิคกี้ บัตต์ ในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเกมเขาสร้างความประทับใจกับแฟนๆ มากทีเดียว เมื่อเขาได้ลงสนามเป็นส่วนช่วยให้ทีมทำประตูเพิ่มได้อีก 3 ประตู ในช่วงแรกของการย้ายมาเล่นในอังกฤษ เขาต้องใช้เวลาปรับตัวกับชีวิตในอังกฤษ มากพอสมควรทำให้โชว์ฟอร์มได้ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก แต่เมื่อเวลาผ่านไปเขาก็ยิ่งเล่นได้ดีขึ้น ซึ่งเครื่องหมายการค้าของเขา คือ การลากเลื้อย ด้วยความสามารถนี้เองช่วยให้เขาติดทีมชาติชุดลุยศึกยูโร 2004 ถึงแม้เขาจะต้องนั่งเป็นตัวสำรองของทีมชาติ แต่ 1 ประตูที่เขาทำรวมทั้งการจ่ายให้เพื่อนทำประตูใน 2 เกมแรกที่พบกับ กรีซ และ รัสเซีย

ทำให้เขากลายเป็นตัวเลือกแรกที่จะลงเล่นให้กับทีม อีกทั้งเขายังสามารถทำประตูให้กับทีมในรอบ รองชนะเลิศ ที่พบกับ ฮอลแลนด์ แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อทีมต้องพ่ายให้กับ กรีซ ในรอบชิงชนะเลิศนอกจาก เวย์น รูนี่ย์ แล้ว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นมากในศึกยูโร 2004 และการเล่นให้กับทีมยักษ์ใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เขาพัฒนาได้เร็วขึ้นมากเลยทีเดียว



______________________________________________________________________





วันเกิด 24 ตุลาคม 1985
เมืองเกิด ลิเวอร์พูล
ตำแหน่ง ศูนย์หน้า
หมายเลขเสื้อ 8

เวย์น รูนี่ย์ กลายเป็นนักเตะวัยรุ่นที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลก หลังจากที่เซ็นสัญญาย้ายจาก เอฟเวอร์ตัน มาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวเกือบ 30 ล้านปอนด์อดีตศูนย์หน้าดาวรุ่งของ เอฟเวอร์ตัน ได้ทำความฝันของเขาให้เป็นจริงแล้วโดยการย้ายเข้าสู่ถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ตลาดซื้อขายนักเตะจะปิดลงในวันอังคารที่ 31 สิงหาคม 2004 นัดแรกที่เขาปรากฏตัวในวงการฟุตบอลอังกฤษ ก็คือฤดูกาล 2002/03 ในเกมที่ทีมพบกับ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ส ที่ กูดิสัน พาร์ค และหลังจากลงสนามได้ 9 นัด เขาก็สามารถยิงประตูแรกให้กับตัวเองได้ด้วยอายุเพียง 16 ปี ในเดือนตุลาคมด้วยการลงเล่นแทน โทมัส รัดซินสกี้ ในช่วง 10 นาทีสุดท้ายที่ทีมพบกับ อาร์เซน่อล

ในช่วงนาทีสุดท้ายเขาก็ยิงประตูชัยให้กับทีมได้ และด้วยประตูนี้ก็ทำให้ทีมเอาชนะอาร์เซน่อล ไปได้ 2 – 1หลังจากนั้นไม่นาน พรสวรรค์ของเขาก็เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ และเขาก็กลายเป็นนักฟุตบอลที่ติดทีมชาติอังกฤษ และได้ลงเล่นด้วยอายุน้อยที่สุดในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2003 โดยที่เขาลงเป็นตัวสำรองในนัดที่พบกับทีมชาติออสเตรเลียที่ อัพตัน พาร์ค อีกทั้งเขายังเป็นนักเตะที่มีอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูให้ทีมชาติได้ด้วยอายุเพียง 17 ปี ในเดือนกันยายน ปี 2003 ในเกมที่พบกับ มาซิโดเนีย

นัดแรกที่ รูนี่ย์ ลงเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลายเป็นนัดที่เขาสร้างประวัติศาสตร์อีกนัดหนึ่ง นั่นคือเขาสามารถทำแฮตทริกได้ในนัดแรกที่ลงสนามให้กับทีม และเป็นการยิงประตู เฟเนร์บาห์เซ่ ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ในวันที่ 28 กันยายน และการยิงประตูนัดแรกในพรีเมียร์ลีก ให้กับทีมปีศาจแดงนั่นก็คือ การยิงประตูอาร์เซน่อล ในวันที่ 24 ตุลาคม 2547 ช่วยให้ทีมเอาชนะไปได้ 2 – 0 ในโรงละครแห่งความฝันและเป็นประตูฉลองวันเกิดครบอายุ 19 ปี ให้กับเขาในวันนี้ด้วย แล้วก็ทำให้ เรด อาร์มี่ ทุกคนได้รู้ว่าฮีโร่ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว



by เอกคับ